Bangkok Hospital Samui – โรงพยาบาลกรุงเทพสมุย

โรคเบาหวานประเภทที่ 2 : ป้องกันได้ แค่ปรับพฤติกรรม

2 ตุลาคม 2025

โรคเบาหวานประเภทที่ 2 (Type 2 Diabetes Millitus) เป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ที่ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดจากการที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน (ฮอร์โมนที่ช่วยนำน้ำตาลจากเลือดเข้าสู่เซลล์) ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอด ส่งผลเสียต่อหลอดเลือด หัวใจ ไต ตา และระบบประสาท 

การวินิจฉัยเบาหวาน ทำได้โดยวิธีใดวิธีหนึ่งใน 4 วิธี ดังต่อไปนี้

  1. ระดับน้ำตาลในเลือด หลังอดอาหาร (อย่างน้อย 8 ชั่วโมง) ≥126 มก./ดล.
  2. มีอาการโรคเบาหวานชัดเจน ได้แก่ หิวน้ำบ่อย, ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก, และ น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่มีสาเหตุ ร่วมกับพบระดับน้ำตาลในเลือดเวลาใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร ≥200 มก./ดล.  
  3. การตรวจความทนต่อกลูโคส โดยรับประทานกลูโคส 75 กรัม แล้วตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่ 2 ชั่วโมง ≥200 มก./ดล.
  4. ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1C) 6.5% โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
  • กรรมพันธุ์: ถ้าพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นเบาหวาน ความเสี่ยงสูงขึ้น
  • โรคอ้วน: ภาวะอ้วนลงพุงทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน 
  • กินหวาน มัน เค็ม เกินไป: โดยเฉพาะน้ำตาล น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมหวาน อาหารแปรรูป
  • ขาดการออกกำลังกาย: ทำให้ร่างกายใช้พลังงานน้อย น้ำตาลตกค้างในเลือด
  • ดื่มสุราและของมึนเมาเป็นประจำ: ทำให้ตับอ่อนเสื่อมสภาพและเพิ่มความเสี่ยงเบาหวานได้
  • ความเครียดเรื้อรัง: ทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล น้ำตาลในเลือดสูงได้ง่าย

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นที่ส่งผลให้เกิดโรคเบาหวาน เช่น โรคติดเชื้อ ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น กลุ่มยาสเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด เป็นต้น

หากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน ๆ ทำให้เกิดความผิดปกติต่อไต หัวใจ หลอดเลือด ดวงตา เส้นประสาท ฟันและเหงือก

  • ปัญหาทางตา (เบาหวานขึ้นตา) ระดับน้ำตาลสูงทำลายหลอดเลือดเล็ก ๆ ในจอประสาทตา ทำให้ตามัว มองเห็นไม่ชัด นำไปสู่ จอประสาทตาเสื่อม หรือ ตาบอดถาวร
  • โรคไต (ไตเสื่อม) ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสไจเสื่อมมากกว่าคนทั่วไปถึง 10 เท่า เกิดจากหลอดเลือดในไตเสียหาย ทำให้การกรองของเสียลดลง 
  • โรคหลอดเลือดและหัวใจ เบาหวานทำให้หลอดเลือดแข็งและตีบง่าย เพิ่มความเสี่ยง หัวใจวาย
  • ปัญหาหลอดเลือดที่ขา เลือดไหลเวียนไม่ดี ปลายเท้าเย็น ขนขาร่วง ผิวหนังเป็นมัน หากแผลติดเชื้อ อาจลุกลามจนต้อง ตัดนิ้วเท้าหรือขา
  • ภาวะปลายประสาทเสื่อม มีอาการชาปลายมือปลายเท้า บางรายรู้สึกเหมือนถูกเข็มแหลมทิ่ม ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาเป็นแผล เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ปัญหาช่องปากและฟัน เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเหงือกอักเสบ สูญเสียฟัน
  • ควบคุมน้ำหนักและรอบเอว: ระวังอย่าให้ ‘อ้วนลงพุง’ ผู้ชายไม่ควรมีรอบเอวเกิน 90 ซม. (36 นิ้ว) ผู้หญิงไม่ควรมีรอบเอวเกิน 80 ซม. (32 นิ้ว )
  • กินอาหารให้สมดุล:  กินผักให้ได้ครึ่งหนึ่งของจานอาหาร (ประมาณ 50%)  เลือกข้าวไม่ขัดสี หรือธัญพืช ผลไม้ไม่หวานจัด และเลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น ปลา ไก่ (ไม่ติดหนัง) ไข่ขาว เต้าหู้ 
  • ลดอาหาร “หวาน มัน เค็ม”: เลี่ยงขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ลดอาหารทอด มันจัด หรือใส่กะทิมาก ๆ หลีกเลี่ยงขนมกรุบกรอบ เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน หมูยอ กุนเชียง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และอย่าลืมเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ยกน้ำหนัก วิดพื้น หรือใช้ยางยืด  
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนวันละ 7–8 ชั่วโมง พยายามเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: บุหรี่และเหล้าเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน หัวใจ และหลอดเลือด
  • ตรวจสุขภาพประจำปี: โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี หรือมีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน


เบาหวานประเภทที่ 2 เป็นโรคที่ป้องกันได้ ถ้าปรับพฤติกรรมการกิน การนอน และการออกกำลังกาย อย่าลืมหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วย ลดความเสี่ยง และช่วยให้มีชีวิตที่แข็งแรงยาวนาน

แหล่งอ้างอิง

  1. International Diabetes Federation. Complications. [Internet]. Brussels: International Diabetes Federation; [cited 2025 Aug 22]. Available from: https://idf.org/about-diabetes/diabetes-complications/
  2. ผศ.พญ. พิมพ์ใจ อันทานนท์. โรคเบาหวาน คืออะไร. [อินเตอร์เนต]. กรุงเทพฯ: สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. [เข้าถึงเมื่อ 21 สิงหาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก https://www.dmthai.org/new/index.php/sara-khwam-ru/sahrab-bukhkhl-thawpi/health-information-and-articles/health-information-and-articles-2561/2018-diabates-31

ติดต่อเรา